ไม่ใช่แค่กรณีเดียว: กระทู้ Threads สะท้อนระบบนิเวศการลากรถบนทางด่วน เราจะสร้างระเบียบใหม่ได้อย่างไร?

เหตุการณ์ลากรถบนทางด่วน: เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องน่าตกใจ?
เมื่อเร็วๆ นี้เห็นบทความหนึ่งใน Threads: เจ้าของรถคนหนึ่งยางแตกบนทางด่วน ยังไม่ทันที่รถลากที่ตัวเองเรียกจะมาถึง ก็มีรถลากแปลกหน้ามาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งๆ ที่เจ้าของรถปฏิเสธไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมแพ้ แถมยังพูดจาข่มขู่ และยังยื่นหน้าเข้ามาดูในรถ ทำให้รู้สึกหวาดกลัว
เจ้าของรถ one_860330 กล่าวว่า: เมื่อกี้ยางแตกบนทางด่วน มีรถลากที่ไม่ใช่คันที่ฉันเรียกมา ฉันบอกไปแล้วว่าเรียกแล้ว ไม่ต้องการ เขายังทำท่าทีไม่ดีและข่มขู่ว่า "ได้เลย ฉันจะแจ้งความเธอ เรียกตำรวจมาออกใบสั่งให้เธอ" แถมยังยื่นหน้าเข้ามาดูลูกชายของฉันที่นั่งอยู่เบาะหลัง ไม่ยอมไปไหน เดินวนเวียนอยู่ข้างรถฉันพร้อมกับโทรศัพท์ ทำให้รู้สึกกลัวมากจริงๆ 😭
ดูใน Threads
ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้?
คนขับรถลากจำนวนมากจะลาดตระเวนบนทางด่วน เมื่อเห็นรถเสียก็จะเข้าไปหาทันที อาจมีเจตนาดีคือ "ต้องการแก้ไขสถานการณ์อันตรายโดยเร็วที่สุด" แต่ถ้าวิธีการเร่งรีบและกดดันเกินไป อาจทำให้เจ้าของรถเข้าใจผิดว่าเป็น "การบังคับให้ใช้บริการ"
กฎระเบียบก็ชัดเจน:
- ถ้ารถที่เสีย จอดอยู่บนช่องจราจร จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็ตาม สามารถลากไปยังที่ปลอดภัยก่อนได้
- แต่ถ้ารถ จอดอย่างปลอดภัยบนไหล่ทางหรือช่องจอดฉุกเฉินแล้ว และยังไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เจ้าของรถมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะรอรถลากที่ตัวเองเรียก ไม่จำเป็นต้องรับบริการจากรถที่มาถึงก่อน
ประสบการณ์จากผู้ใช้งานจริง
บทความนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง มีผู้ใช้งานจำนวนมากแบ่งปัน "ประสบการณ์น่าตกใจบนทางด่วน" ของตนเอง และสิ่งที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือสิ่งที่เรียกว่า "แมลงสาบบนทางด่วน":
เกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินเกินจริงและกลโกง:
kingching96: "พวกนี้คือแมลงสาบบนทางด่วน จะลากรถคุณไปอู่ของพวกเขา แล้วถอดชิ้นส่วนรถเพื่อเรียกค่าซ่อมแพงๆ"
jawelon_love: "ตำรวจทางด่วนยังร่วมมือกับพวกเขาด้วย เพราะผมเคยโดนลากมาแล้ว ครั้งหนึ่ง 8,000 บาท แค่ลากไปทิ้งไว้ที่ทางลง"
water197229: "เคยเจอครั้งหนึ่ง ไม่ถึงสองกิโลเมตรคิด 6,500... แถมยังถูกลากไปอู่ซ่อมรถที่ไม่รู้จักอีก"
เกี่ยวกับความสับสนในกฎระเบียบและการรับมือสถานการณ์:
happyamy3456: "ตำรวจบอกว่าบนทางด่วนต้องใช้รถลากของบริษัทคู่สัญญาเท่านั้น? ผมเลยต้องยอมให้เขาลาก... ภายหลังผมได้ยื่นเรื่องขอคืนเงินค่าลากรถกับบริษัทประกัน"
doris_seizethelight: "เรียกแล้วแท้ๆ แต่คนขับรถลากที่ไม่รู้จักกลับเรียกตำรวจมาออกใบสั่ง... ไปร้องเรียนที่กรมขนส่งก็ไม่มีประโยชน์"
คู่มือเอาตัวรอดจากการลากรถบนทางด่วน: แก้ไข 3 ความเข้าใจผิด
จากการรวบรวมประสบการณ์ของผู้ใช้งาน เราได้สรุป 3 คำถามสำคัญเพื่อช่วยให้คุณปกป้องสิทธิ์ของตัวเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน
คำถามที่ 1: ฉันต้องให้ "รถคันแรกที่มาถึง" ลากรถของฉันหรือไม่?
ตอบ: ไม่จำเป็น! ตามที่ผู้ใช้งาน x913612 แบ่งปัน และตามกฎระเบียบของกรมทางหลวง ตำแหน่งของรถคุณ คือสิ่งสำคัญ
- หากจอดอยู่บนช่องจราจร (อันตรายอย่างยิ่ง): เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุซ้ำซ้อน รถลากที่มาถึงก่อน (ไม่ว่าใครจะเรียก) ต้องเคลื่อนย้ายรถไปยังพื้นที่ปลอดภัยก่อน (เช่น ช่องจอดฉุกเฉินหรือทางลงทางด่วน)
- หากจอดอย่างปลอดภัยบนไหล่ทาง: คุณมีสิทธิ์ที่จะรอรถลากที่คุณระบุ (เช่น จากบริษัทประกัน) โดยปกติกฎหมายให้เวลารอ 1 ชั่วโมง
คำถามที่ 2: ตำรวจบอกว่าต้องใช้ "รถลากของบริษัทคู่สัญญา" เท่านั้น จริงหรือไม่?
ตอบ: ใช่, แต่มีประเด็นสำคัญ! อย่างที่ผู้ใช้งาน jacky_lin_09 กล่าวไว้ รถที่บริษัทประกันของคุณส่งมาก็มักจะเป็นบริษัทคู่สัญญาของกรมทางหลวงเช่นกัน ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า "ใครเป็นคนส่งมา" แต่อยู่ที่ว่ารถที่มานั้นเป็น "บริษัทคู่สัญญา" หรือไม่ คุณสามารถขอให้เขาแสดงบัตรประจำตัว หรือโทรติดต่อหน่วยงานจัดการทางหลวงโดยตรงเพื่อยืนยัน
คำถามที่ 3: หากถูกคุกคามและแจ้งตำรวจแล้ว แต่ตำรวจบอกว่า "ไม่ต้องไปสนใจเขา" ควรทำอย่างไร?
ตอบ: นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังที่สุด ตามที่ผู้ใช้งาน guihanden แนะนำ วิธีที่ดีที่สุดคือ:
- อยู่ในรถ, ล็อกประตู, และอย่าปะทะกับอีกฝ่าย
- บันทึกวิดีโออย่างต่อเนื่อง, บันทึกทะเบียนรถ, ลักษณะภายนอก, และพฤติกรรมของอีกฝ่ายให้ชัดเจน
- โทรแจ้งตำรวจหรือหน่วยงานจัดการทางหลวงอีกครั้ง, และแจ้งอย่างชัดเจนว่า "คนขับรถลากทะเบียน XXX กำลังวนเวียนอยู่ข้างรถของฉัน, พูดจาข่มขู่, ฉันรู้สึกว่าความปลอดภัยของฉันถูกคุกคาม" การใช้คำสำคัญเช่น "ความปลอดภัยถูกคุกคาม" มักจะทำให้ตำรวจให้ความสำคัญมากขึ้น
คำแนะนำถึงเพื่อนร่วมอาชีพ
จริงๆ แล้วเราทุกคนเข้าใจดีว่าอาชีพนี้เหนื่อย, มีความเสี่ยง, และรายได้ไม่แน่นอน ใครๆ ก็อยากได้งานเพิ่ม แต่ลองมองในมุมกลับกัน:
- ในขณะนั้น เจ้าของรถกำลังตื่นตระหนก สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุดไม่ใช่การขายแบบกดดัน แต่คือความรู้สึกปลอดภัย
- คำพูดว่า "มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?" กับ "ถ้าไม่ลากจะโดนปรับนะ!" นั้นแตกต่างกันมาก
- ท่าทีที่ดีขึ้น, สร้างความไว้วางใจ, แม้ว่าในตอนนั้นจะไม่ได้งาน แต่ในอนาคตอาจกลายเป็นลูกค้าประจำได้
สรุป
การลากรถบนทางด่วนไม่ควรเป็นสนามประลองกำลัง แต่เป็นงานช่วยเหลือ เจ้าของรถต้องการความสงบและความปลอดภัย, ส่วนคนขับต้องการความเคารพและความเห็นใจ
ลองเปลี่ยนวิธีการ:
- เจ้าของรถจะไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป
- เพื่อนร่วมอาชีพก็จะมีชื่อเสียงที่ดีขึ้น
ความเข้าใจผิดบนเส้นทางนี้จะลดลงไปมาก
ดาวน์โหลด Road Savior สัมผัสประสบการณ์ช่วยเหลือบนท้องถนนที่อุ่นใจ
หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนทางด่วนหรือไม่?
ที่ Road Savior เราสัญญาว่า:
- ราคาโปร่งใส: คนขับทุกคนต้องเสนอราคาออนไลน์ก่อน และจะให้บริการเมื่อคุณยินยอมเท่านั้น
- การยืนยันตัวตน: คนขับทุกคนบนแพลตฟอร์มผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น
- ติดตามการเดินทาง: แอปมีแผนที่ในตัว ให้คุณติดตามความคืบหน้าของการช่วยเหลือได้ตลอดเวลา
ครั้งหน้าที่คุณต้องการความช่วยเหลือ ให้ตัวเองได้มีทางเลือกที่อุ่นใจกว่า



